วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Special Fic] INSIDE ME backstage #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง Part 12

[Special Fic] INSIDE ME backstage #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
Part 12

การกลับมาอีกครั้งของ #วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ ครั้งที่ 4

พบกันอีกครั้งกับฟิค #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
ซึ่งคราวนี้มาในธีมคอนเสิร์ต INSIDE ME ของเฮียถิงค่ะ
โดยเราจะเขียนต่อกัน 6 คนคนละ 2 หน้าถ้วน ไม่มีการบอกพล็อต ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้
อยากรู้ไหมคะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาลุ้นด้วยกันสิคะ :D

ตอนที่แล้วค่ะ

part 1  By @ConiCat

part 2 By @camrt138

part 3 By @kakujo59

part 4 By @Essorhino

part 5 By @en_gen95

part 6 By @zpctxv

part 7 By @ConiCat

part 8 By @camrt138

part 9 By @kakujo59

part 10 By @Essorhino

part 11 By en_gen95


ใช่ นัดสำคัญ...ลืมไปได้ยังไงกันนะ

ชายหนุ่มรีบวิ่งออกจากฮอลล์  โดยไม่ได้ใส่ใจเสียงใครสักคนที่ตะโกนไล่หลังมาด้วยความตกใจ เหว่ยถิงลืมอาการเจ็บของตัวเองชั่วคราว เขาเร่งก้าวขายาวๆ เพื่อไปให้ถึงที่หมายโดยเร็ว

ขอให้ทัน รอก่อนนะ รอก่อน 

แต่เมื่อว่าถึงที่หมายชายหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวัง รอบกายมีแต่ความว่างเปล่า  และเงียบเชียบ เฉินเหว่ยถิงได้แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่กลางสถานที่ว่างเปล่าแห่งนี้

แต่ทว่ากลับมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับกลายเป็นคริสและอี้ชิงที่กำลังเดินตรงมาที่เขาอย่างช้าๆ

                “ทำไมพวกนายไม่เตือน” เหว่ยถิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่เย็นเยียบ แต่ทันทีที่สิ้นสุดคำถามคริสก็ตอบกลับมาแทบจะทันที

                “ผมคิดว่าเฮียรู้ตั้งแต่ที่พวกผมบุกไปหาที่ห้องแล้ว อีกอย่างหนานไพ่ก็มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เฮียอยากให้เขาเดือดร้อนเหรอครับ”

                “เขาไปไหนแล้ว ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่เห็นพวกนายรวมตัวกันเล่นเกมแล้วสินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่พลาดโอกาสที่จะได้เจอ”

                “เอาน่าเจ่เจ้จะเครียดทำไม กลับไปที่ฮอลล์เพื่อเตรียมงานวันพรุ่งนี้เถอะน่า ยังไงเฮียก็ต้องได้เจอแน่นอน ผมรับรองด้วยไขมันของผมเลย ยอมเป็นเจ่เจ้ของวงการทั้งที” คริสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อให้ร่างสูงคลายกังวล แต่ถึงอย่างนั้นเจ่เจ้ถิงก็ยังเอาแต่ยืนนิ่งมองตาของเด็กร่างยักษ์สลับกับแกะหน้ามึนไปมาอย่างไม่แน่ใจ จนเมื่อได้เห็นแววตาที่ทอประกายความหนักแน่นออกมา เจ่เจ้จึงได้แต่จำยอมทำตามคำบอกนั้น  เจ้าแกะน้อยจึงพาหน้าง่วงๆ และร่างบางๆ ของตัวเองเข้ามาดึงแขนของคนเป็นพี่กลับไปที่ฮอลล์

                เมื่อทั้งสามคนกลับมาที่ฮอลล์ก็ยังเจอกับหนานไพ่ที่นั่งคุยอยู่กับเชียนซีอย่างออกรส แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน ดวงตาเล็กที่แทบจะถูกแก้มซาลาเปาของเจ้าตัวกลบไว้ก็หันกลับมามองอย่างรวมเร็ว ทำราวกับเมื่อสักครู่นี้เจ้าตัวไม่ได้กำลังหัวเราะหรือคุยเล่นอยู่กับใคร

                “กลับมาแล้วเหรอฝอเหยีย  ถึงกับต้องรีบวิ่งออกไป รู้แล้วสินะ แล้วยังไงสรุปจะไม่ยอมมาอยู่ในสังกัดของฉันใช่ไหม” เสียงหนานไพ่เอ่ยขึ้น พร้อมๆ กับที่ทุกคนเงียบเสียงลง บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนเหมือนฉากในหนังที่เหตุการณ์รอบๆ ตัวกำลังหยุดหมุน

                “ใช้ค่รับ ส่วนที่กลับมาน่ะเจ่เจ้ตางหาก ฝอเหยียคงไม่กลับมาอีก ขอตัวไปซ้อมต่อนะครับ”

                ใช่... เจ่เจ้ตางหากที่กลับมา ไม่ใช่ฝอเหยีย

            ทุกคนในฮอลล์ต่างอมยิ้มกับท่าทางของเจ่เจ้ที่เดินสะบัดตูดกลับไปที่เวทีได้อย่างน่ารักน่าชัง (?) ต่างกับหนานไพ่ซานซูที่ดูเหมือนว่าหน้าที่อูมๆ อยู่นั้นกำลังแกงกล่ำราวกับว่าอีกสักวินาทีมันจะระเบิดออกมา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากฮอลล์ไปด้วยความโมโหที่ชักชวนเหว่ยถิงมาเข้าสังกัดของตนไม่สำเร็จ แถมยังโดนหักหน้าต่อคนอื่นๆ อีกหลายคนด้วย



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

                เสียงครึกครื้นของดนตรีดังปะปนกับเสียงกรี๊ดของเหล่าควีนดังสนั่นทั่วฮอลล์ ภาพบนเวทีตอนนี้แสดงให้เห็นถึงเจ่เจ้แห่งวงการกำลังเปลือยท่อนบนใส่มงกุฎหน้าตาประหลาดที่ควีนแอบลงมติกันอย่างเงียบๆ ว่าจะเรียกมันว่าชุดหงอนไก่ และทำท่าเต้นที่ดูแล้วสะดีดสะดิ้งแต่ก็แฝงไว้ด้วยความแข็งแรงจนน่าหลงใหล

คอนเสิร์ตครั้งนี้มีแต่ชุดนำแฟชั่น ที่ดูแล้วสมกับเป็นเจ่เจ้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูทแดงที่ไม่ได้ใส่เสื้อตัวในเอาไว้จนโชว์แผงอกเต่งตึงน่ากัด มองเห็นหยดเหงื่อชวนให้สยิวใจ หรือจะเป็นชุดดำที่เจ้าของคอนเลิกเสื้อขึ้นเพื่อโชว์ซิกแพ็คให้เหล่าควีนได้กรี๊ดจนร่ำๆ จะเป็นลมตายอยู่ที่ฮอลล์

หวังว่าคนคนนั้นจะดูอยู่นะ

ในที่สุดคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็จบลง ท่างกลางความเสียดายของเหล่าควีนที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุกจนลืเวลาและไม่อยากให้คอนครั้งนี้ต้องจบลง แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา และ...รอวันที่กลับมาเริ่มต้นใหม่ขึ้นอีกครั้ง

“เฮ้ เจ่เจ้วันนี้สะดิ้งมากเป็นพิเศษเลยนา เพราะอะไรกันละนี่” ทันทีที่ลงจากเวที เสียงของป๋อหรันที่วันนี้เจ้าตัวว่างเลยมานั่งชมคอนเสิร์ตก็เอ่ยแซวขึ้นทันที พร้อมกันทำตาเล็กตาน้อย ลอยหน้าลอยตายั่วชายหนุ่มหน้ามันเหม่งเปล่งแสงอย่างหยอกเย้า

“หึหึ ก็แน่สิเพื่อควีนที่น่ารักของฉัน ก็ต้องเต็มที่กันหน่อย” เจ่เจ้ตอบด้วยสีหน้าที่มีความสุข

“เฮ้อ อย่างนี้ละน้า จะได้เจอคนสำคัญทั้งที อะไรๆ ก็ดีไปหมดดดด ใช่สิ พวกฉันมันหมดประโยชน์แล้วนี่  คราวนี้จะมีคนว่างมานั่งเล่นอินเกรสด้วยไหมน้า” ป๋อหรันยังไม่หยุดแซวร่างสูง แต่เหว่ยถิงก็ใช่ว่าจะสนใจคำแซวนั้น ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงล้วนๆ เจ้าตัวจะไปเถียงอะไรได้ล่ะ แถมยังต้องสมนาคุณให้เจ้าพวกนี้อีกตางหากน่ะสิ เป็นอะไรดี...เงินสดไปให้เติมเกมดีไหมนะ

ที่จริงแล้วอี้เฟิงบอกว่าเจ้าพวกนี้รวมทั้งตนเองคอยติดต่อคนสำคัญของเขามาตลอด ดดยคุยกันผ่านเกมอินเกรสที่มีช่องแชทอยู่ในเกม  กำหนดรัศมีระยะ 10 กิโลเมตรโดยมีห้องของเขาเป็นศูนย์กลาง จนโดนล่อลวงไปติดเกมโปเกมอน โก กับเกมดาบแบบงอมแงม ทุกคนคอยช่วยวางแผนกันท่าไม่ให้หนานไพ่เข้ามาวุ่นวายกับตัวเขาไปพร้อมๆ กับการวางแผนเล่นเกมทั้งสามเกมแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดเเละก้าวหน้าอย่างจริงจัง

จนวันนี้เขากับคนสำคัญจะได้เจอกันแล้ว หลังจากที่เมื่อวานนกเพราะความซื่อบื้อของเขาเองไม่ยอมไปตามนัดที่เคยให้สัญญาเอาไว้เมื่อปีก่อน

“เฮีย” เสียงเรียกที่คุ้นเคย ทำเอาเหว่ยถิงหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และสวมกอดเอาไว้ก่อนที่จะเอ่ยประโยคๆ หนึ่งออกมา

“คิดถึงนะ ผบ. คราวนี้กลับมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เฮียเลยนะ อย่าไปไหนอีก”

.....................................................................................................................................

จอบอจ้ะ 5555555555555555555555555 
อย่าได้เเต่อย่าเเรงนาจา ผบ.อ่อนเเอ


วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[SP] INSIDE ME backstage Part 6

การกลับมาอีกครั้งของ #วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ ครั้งที่ 4

             พบกันอีกครั้งกับฟิค #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
ซึ่งคราวนี้มาในธีมคอนเสิร์ต INSIDE ME ของเฮียถิงค่ะ
   โดยเราจะเขียนต่อกัน 6 คนคนละ 2 หน้าถ้วน ไม่มีการบอกพล็อต ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้
             อยากรู้ไหมคะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาลุ้นด้วยกันสิคะ :D

ตอนที่แล้วค่ะ

Part 1 by @ConiCat
Part 2 by @cmart138
Part 3 by @kakujo59
Part 4 @Essorhino
Part 5 @en_gen95




มันไม่มีอะไรจริงๆ อย่าไปสนใจไอ้แกะตัวนั้นเลย ไร้สาระเปล่าๆ ว่าแต่นายเถอะมาถึงก็ทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ห้อง แล้วก็ยิงคำถามใส่ฉันรัวๆ ที่มาถามนี่...เพราะหวงหรือว่า...เจ่เจ้เอ่ยปากถามเจ้าเด็กหนุ่มหน้าตายที่ตอนนี้เริ่มนั่งปักหลักจิ้มโทรศัพท์อยู่ที่โซฟากลางห้องอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยที่ไม่สนใจเจ่เจ้ที่เจ้าตัวตั้งใจมาหาสักนิด

เหว่ยถิงมองเด็กหนุ่มที่เหมือนจะเลิกคาดคั้นเขาเอาซะดื้อๆ เสียอย่างนั้น เหมือนกับว่ามีสิ่งอื่นที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องของเขามาเบี่ยงเบนความสนใจไป

อะไร...ตอนแรกเหมือนจะบีบคอเขาให้ได้ถ้าไม่ได้รับคำตอบดีๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าตัวเขาหมดความสำคัญโดยสิ้นเชิง นี่มันอะไรกัน แต่ว่ามันก็ดีแล้วหนิ ถือว่ารอดตายไปได้แบบสวยงามอีกหนึ่งเรื่อง เหว่ยถิงได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องดีใจที่ไม่โดนคาดคั้นหนักไปมากกว่านี้

นี่...เชียนซี นายนั่งอยู่แบบนั้นมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วนะ จะไม่พูดอะไรหรือสนใจฉันสักหน่อยหรอตอนแรกชายหนุ่มก็ว่าดีอยู่หรอก ที่มีเด็กตัวหอมๆ ขาวๆ มานั่งเป็นอาหารตาอยู่ใกล้ๆ แต่พอเริ่มผ่านไปนานเข้าเจ่เจ้ก็เริ่มจะหงุดหงิดที่ไอ้เด็กบ้านี่มันไม่สนใจเขาสักนิด มัวแต่ก้มหน้าก้มตามองหน้าจอแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

“.....” มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ตอบกลับเจ่เจ้

เหว่ยถิงกลายเป็นอากาศโดยสมบูรณ์... ไม่สิ! แค่เกือบจะสมบูรณ์

ว่าไงเชียนซี อย่ามาเงียบ นายมาห้องคนอื่นเขาแล้วมาเงียบแบบนี้ไม่ได้นะเหว่ยถิงยังคงถามต่อไป จากตอนแรกตกใจปนกลัวที่เชียนซีอยู่ๆ ก็โผล่มาหน้าห้อง ตอนนี้กลับกลายเป็นความสงสัยบวกกับอารมณ์ที่ติดจะหงุดหงิดนิดๆ เมื่อมีแต่ความเงียบ ประกอบกับการโดนเมินนี่อีก เหอะ!

อันที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจจะมาหาพี่ แต่ผม...” 

ขณะที่เหว่ยถิงกำลังจะง้างปากไอ้เจ้าเด็กหน้าตายให้มันพูดได้ ก็ดันมีคนมาเคาะประตูเรียกขัดจังหวะซะอีก

พรึ่บ! ทันทีที่เปิดประตู ก็พบว่าเป็นจิ่งป๋อหรัน ก่อนที่เจ้าตัวพรวดพราดเข้ามา แล้วก้มหน้ากดโทรศัพท์ยิกๆ อย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เจ้าของห้องอย่างเหว่ยถิงยืนงง

นี่มันอะไรกัน...

อีก 10 นาทีครับป๋อหรันเกอไอ้หนูที่อยู่ในห้องอยู่ๆ ก็พูดขึ้น
เหอะ! ก็ยังดีกว่าไม่ทัน ขอบใจนายมากที่วีแชทไปตาม คนมาใหม่ก็ตอบรัวอย่างรวดเร็ว

ลิงแก่แห่งวงการบันเทิงได้แต่หันไปมองซ้ายทีขวาทีอย่างงงงวย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก  แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง

โว้ยยยย มันจะอะไรกันนักหนาวะเนี่ย ทำไมวันนี้แม่งรักกูกันจังวะ จะได้หลับได้นอนไหมเนี่ย เออๆ รู้แล้ว อย่าทุบประตูรัวขนาดนั้น เกรงใจคนอื่นเขาบ้างเหว่ยถิงยกมือขยี้ผมอย่างหัวเสีย เริ่มแหกปากโวยวายให้ฟันหน้าออกมาทักทายเล่นตามแรงอารมณ์ที่เริ่มพุ่งสูงขึ้น ก่อนจะรีบไปเปิดประตูเมื่อคนที่รออยู่เริ่มเปลี่ยนจากเคาะกลายมาเป็นทุบแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย

อ้าว! จุนไค.... เอ๊ะ อี้เฟิงนายก็มากับเขาด้วยหรอ

รบกวนหน่อยนะครับถิงเกอ ผมมาตามเชียนซีกลับห้องน่ะครับ อ้อ! เมื่อกี้คุณอี้เฟิงเขาเป็นคนเคาะนะครับไม่ใช่ผมจุนไคพูดขึ้นก่อน

แล้วนายล่ะอี้เฟิง

ป๋อหรันวีแชทมาตามน่ะครับ บอกซากุระบาน ผมเลยรีบมา อยากมาดูเจ่เจ้ก่อนขึ้นคอนด้วยว่าเป็นไงบ้าง สบายดีใช่ไหมครับ ผมเอารังนกมาฝาก เห็นวันก่อนเจ้าหยางก็บอกอยู่ว่าฝากของบำรุงมาให้ แต่อันนี้เด็ดกว่าเห็นฮั่นเกอบอกว่ากินแล้วดี”  อี้เฟิงบอกยิ้มๆ พร้อมยื่นของโด๊ปให้ก่อนกวาดสายตามองคนที่เรียกตัวเองว่าเจ่เจ้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่สบายดี ดูไม่ป่วยไม่ไข้ เหม่งเปล่งแสงได้อย่างปกติ ก็เร่งรีบสาวเท้าเข้าไปสมทบกันป๋อหรันที่ตอนนี้นั่งคุยอยู่กับเชียนซีที่โซฟา

นี่พวกนายมาทำอะไรกันแน่...ชะนีสาว เอ้ย เจ่เจ้ถิถามด้วยความมึนงง เมื่อเห็นจุนไคที่ออกปากบอกว่ามาตามเชียนซีกลับห้องตอนนี้ก็เริ่มนั่งลงควักโทรศัพท์มาจิ้มเอากับเขาด้วย

เกอนี่ไม่ตามเทรนด์เลย มัวแต่ยุ่งอยู่กับคอนสินะครับ พวกผมมานั่งเฝ้าซากุระครับ...เกอไปมาร์คหน้านอนก่อนก็ได้ ไม่ต้องห่วงทางนี้เดี๋ยวคืนนี้ผมจะนอนที่นี่ เดี๋ยวพอพวกนี้กลับแล้วผมจะปิดห้องให้เองอี้เฟิงเอ่ยขึ้นพร้อมกันรอยยิ้มเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่าพี่ชายมีสีหน้าที่เอ๋อ และมึนงงขึ้นเรื่อยๆ

นายจะนอนที่นี่เหรออี้เฟิง มีจุดประสงค์ล่ะสิป๋อหรันแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว เเต่ร่างอวบไม่ตอบได้เเต่ยิ้มน้อยๆ อยู่เหมือนเดิม

งั้นตามสบายเลยพวกนาย อี้เฟิงเดี๋ยวเกอไปนอนรอ อะแฮ่ม! เดี๋ยวเกอไปนอนก่อนแล้วกันนะเจ่เจ้ที่ได้ยินว่าแมวน้อยของตนจะนอนที่นี่คืนนี้ก็รีบเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว เลิกสนใจท่าทีแปลกๆ  ของทุกคนในทันที แม้จะรู้สึกว่า...เหตุการณ์แบบนี้มันคุ้นๆ เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อนก็เถอะ 

ซากุรง ซากุระอะไรจะมาสำคัญเท่าคืนนี้จะมีคนมานอนด้วยกันล่ะ...


แต่ก่อนเข้าห้องก็ยังไม่วายได้ยินเสียงนัดแนะลอยเว่วเข้ามาในโสตประสาท

พรุ่งนี้เกอเลิกซ้อมสามทุ่ม...

ซากุระบานเวลาเดิม คราวนี้ฉันจะมาปลูกเอง เดี๋ยวพาอู๋เสียมาด้วย


TBC...................................................................


วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รอยยิ้มของคนขรึม



เฉินเหว่ยถิง part



                อี้หยางเชียนซี เด็กหนุ่มที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเป็นพ่อหนุ่มเย็นชา

                อี้หยางเชียนซี เด็กหนุ่มที่บอกทุกคนเสมอว่าตัวเองเป็นคนขรึม ๆ คูล ๆ

                อี้หยางเชียนซี เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะเข้าถึงยากในสายตาทุกคน

                แต่ที่จริงน่ะเหรอ...หึหึ


                ใครจะรู้เล่าว่านั่นเป็นเพียงหน้ากากที่สวมเอาไว้เพื่อกันคนมาวุ่นวาย หากได้ลองรู้จักหรือเริ่มสนิทกันแล้วล่ะก็ รับรองว่าจะได้เห็นด้านต๊อง ๆ ของเจ้าเด็กนี่เพียบเลยล่ะ เฉินเหว่ยถิงเอาหัวเป็นประกันเลย!

                วันนั้นผมมีขึ้นโชว์งาน ๆ หนึ่ง ก็ขึ้นไปร้องเพลงและเต้นโชว์ตามเสต็ปคนหล่อเป็นปกติ ไม่ได้มีอะไรมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ยักจะรู้ว่าความหล่อและความเท่ของผมจะไปสะกิดต่อมเจ้าเด็กเย็นชาเข้าอย่างจัง!!

                ผมรู้ตัวนะว่าผมเป็นคนมีเสน่ห์ไม่ว่าจะกับเพศไหน แต่ไม่คิดว่าเจ้าเด็กนิ่ง ๆ คนนั้นจะปลื้มผมได้ขนาดนี้ ขนาดแค่ผมเห็นจากคลิปที่แฟนคลับเจ้าเด็กนั่นถ่ายมา ผมยังรู้สึกได้ถึงความชื่มชมที่ส่งออกมาจากสายตาเลย ไหนจะปากเล็ก ๆ ที่เดี๋ยวอ้า เดี๋ยวหุบ เดี๋ยวเม้มนั่นอีก คงเผลอลืมตัว อยากจะกินผมขึ้นมาล่ะมั้ง แถมนาที 1.07 ที่ยิ้มกว้าง ๆ จนเห็นลักยิ้มนั่นอีกน่ารักชะมัด!!


ผมว่านะเจ้าตัวคงไม่รู้ว่ามีแฟน ๆ แอบถ่ายคลิปอยู่ ไม่งั้นคงไม่หลุดมาดขรึมยิ้มเเต้มาขนาดนี้หรอก...


              ไม่รู้ว่าป่านนี้คนขรึมจะเห็นคลิปรึยังนะ...
แต่พนันได้เลยถ้าดูเเล้วไม่ตีหน้านิ่ง ก็คงบ่นด่าลมฟ้าตามสไตล์ของคนคูล ๆ นั่นล่ะ






เชียนซี นายเห็นคลิปนี้เเล้วรึยัง เกอว่ามันน่ารักมากเลยนะ
นายลองดูสิ


อะไรของลุงผมไม่ว่างมาเล่นด้วยหรอกนะ 


ลองดูก่อนสิ

เฮ้! เชียนเชียน

เเหน่ะ อ่านเเล้วไม่ตอบ เขินอยู่รึไง

วันหลังมาให้เกอสอนเต้นให้ก็ได้นะถ้านายชอบขนาดนี้

สอนฟรีเเบบตัวต่อตัวไม่คิดเงินเลยเอ้า รับประกันว่าเก่งขึ้นเเน่นอน

หึหึหึ พ่อคนขรึม หลุดมาดเเค่นี้ถึงกับไม่ตอบเลยหรอ

ยิ้มนายออกจะน่ารัก


อะไรของลุง ผมไม่ได้ยิ้มโว้ยยยยยยยยยยยยย

นั่นผมเเยกเขี้ยว!! ผม ไม่ ได้ ยิ้ม!!




.............................................................................................................................................................................

คนขรึมยังไงก็เป็นคนขรึมอยู่วันยังค่ำเเหละเนอะ 

มาสั้น ๆ เผื่อตัวเองกลับมาอ่านในอนาคต จะได้รู้ว่าวันนึงเรากรี๊ดคู่นี้ได้ขนาดนี้

อ้อ ฟิคนี้แอบได้รับอิทธิพลจากคุณคุโจด้วยหน่อยนึง โฮร่วววววววววว ๆม่ๆด้ยิ้มของเชียนเชียนนี่มันน่ารักจริงเลยเน้อออ

ปูลู. ถ้าอยากอ่านยาว ๆ เจอกันในเล่ม #หัตถกรรมคนคุก นะครับ (ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ เเต่ขายของไว้ก่อน 55555)





















วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Special Fic [Memory] : Chinese New Year Day of William Chan Part 4


Chinese New Year Day of William Chan Part 4 มาเเล้วค่ะ
*** ยังไม่ได้จัดหน้าให้นะคะเพราะอัปจากโทรศัพท์ หากมีฉีกคำหรือเว้นเเปลก ๆ อ่านยากตรงไหน ก็ขอโทษด้วยนะคร้าบบบบ


ความเดิมตอนที่เเล้ว ตอนที่ 1 /// ตอนที่ 2 /// ตอนที่ 3


“ว่าไงครับ คุณหนูเชียนมาทำอะไรที่นี่ แล้วกล้องถ่ายรูปนั่นอะไรครับ” หลังจากอึ้งไปสักพักเหว่ยถิงก็ถามคุณหนูของเขาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

                “... ฉันก็แค่มาเดินเล่น”  เชียนซี คุณหนูร้านทองเชียนเชียนเงียบอยู่ครู่นึงราวกับครุ่นคิดที่จะหาคำตอบเหมาะ ๆ ที่จะบอกกับเหว่ยถิง

                “แค่มาเดินเล่นจำเป็นต้องเอากล้องมาด้วยเหรอครับ” แต่ชายหนุ่มก็ไม่ลดละความพยายามในการรีดเค้นหาคำตอบ หัวคิ้วขมวดมุ่นทำให้หน้าผากกว้าง ๆ นั้นเต็มไปด้วยรอยยับ

                ไร้เสียงตอบรับจากเด็กหนุ่มตรงหน้า เหว่ยถิงหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางเค้นคำตอบออกจากร่างเล็กตรงหน้าได้ คุณหนูเชียนเป็นคนดื้อด้านต่อให้กดดันแค่ไหนถ้าเจ้าตัวไม่อยากตอบก็ไม่มีทางได้รู้คำตอบแน่ ๆ มีแต่จะรังให้เสียเวลาเปล่า ๆ หากจับไม่ได้คาหนังคาเขาไม่มีทางซะหรอกที่เจ้าตัวจะยอมรับว่าแอบถ่ายรูป

                “รีบกลับบ้านเถอะครับ เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง แล้ววันหลังอย่าแอบออกมามืด ๆ ค่ำ ๆ แบบนี้อีกนะครับ ส่วนซองแดงถ้าอยากให้ก็เอามาต่อหน้าก็ได้นะครับ ถ้าอย่างนั้นผมน่าจะมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นอีกเยอะ”

                “ซองแดงอะไรของนาย ฉันไม่รู้เรื่อง หลบไป!  ฉันจะกลับบ้าน” เด็กชายทำสีหน้างงกับสิ่งที่เหว่ยถิงพูด ก่อนจะออกแรงผลักชายหนุ่มให้พ้นทางแล้วรีบวิ่งออกไป

                ถึงแม้ว่าเชียนจะตอบกลับมาแบบนั้นแต่เหว่ยถิงก็ยังไม่ได้เชื่อซะเต็มร้อย เพราะใบหน้าเชียนแม้จะดูเฉยชาราวกับไม่รู้สึก  รู้สาอะไรกับประโยคพวกนั้น แต่ดวงตากลับไหววูบร่องรอยของความกังวลปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่งก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว

ยังมีเวลาจับผิดอีกนาน... นานจนกว่า งาน จะเสร็จนู่นล่ะ

...........................................................................................

ดูเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อคืนจะทำให้วันนี้เหว่ยถิงตื่นเช้ากว่าทุกวัน หรือจะเรียกอีกอย่างว่ายังไม่ได้นอน เสียงจากสาย 611 รบกวนความคิดของเขาจนข่มตานอนไม่หลับ ไหนจะเรื่องของคุณหนูเชียนที่เกิดขึ้นปุปปัปนั่นอีก

เหว่ยถิงเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะนอนลืมตาอยู่เฉย ๆ สู้ลุกไปเตรียมเปิดร้านเกาลัดเสียยังจะดีกว่า เปิดเร็วกว่าปกตินิดหน่อยก็คงไม่มีอะไรเสียหาย ในเมื่อช่วงนี้ลูกค้าเยอะอยู่แล้วถือซะว่าจะได้ไม่ต้องรีบร้อนแข่งกับเวลาที่บางครั้งก็ดูจะเดินเร็วเกินไปจนทำอะไรไม่ทันไปเสียหมด

แต่ชายหนุ่มกลับเจอใครบางคนกำลังทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่กับประตูบ้านเขาเสียนี่

“เสี่ยวหยวน?”

“เฮีย!” เด็กน้อยที่กำลังจะเสียบอะไรบางอย่างถึงกับสะดุ้งตกใจกับเสียงของคนที่เขาคิดว่าตอนนี้น่าจะนอนอยู่

“ทำอะไรกับประตูบ้านเฮียน่ะเสี่ยวหยวน”

“ผม...” เด็กน้อยตรงหน้าเหว่ยถิงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เอามือไพล่หลังเอาไว้เพื่อซ่อนสิ่งนั้นให้พ้นจากสายตาของเหว่ยถิง แต่มีหรือที่ชายหนุ่มจะไม่เห็น อากัปกิริยาของเด็กน้อยตรงหน้าทำให้เหว่ยถิงมั่นใจว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ก็คือซองแดงที่มาเสียบอยู่หน้าบ้านเหมือนวันอื่น ๆ นั่นเอง

เหว่ยถิงขยับตัวเข้าไปแย่งสิ่งที่เสี่ยวหยวนซ่อนอย่างรวดเร็ว  เร็วจนเด็กน้อยได้แต่ยืนอึ้ง ก่อนจะมาคิดได้ทีหลังว่าเหว่ยถิงนี่ไวยังกับลิง

                “ซองแดง? เป็นเสี่ยวหยวนเองเหรอที่คอยถ่ายรูปแล้วเอาซองแดงมาเสียบที่ประตูบ้านเฮียทุกวัน” ชายหนุ่มถามทันทีที่แย่งเอาซองแดงมาจากเด็กน้อยได้ น้ำเสียงจากร่างสูงที่กดดันมาทำเอาร่างเล็กตรงหน้าดูคล้ายจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ จนดูคล้ายกับกระต่ายน้อยเวลาเจอหมาป่าไล่ล่า

                “เอ๋! ไม่ใช่นะเฮีย เสี่ยวหยวนแค่รับฝากมาเฉย ๆ “ เด็กน้อยรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน

“ใครฝากมา”

“คุณคะ...เอ้ย! คือว่า...มันเป็นความลับอ่ะเฮีย เขาห้ามผมบอกเฮีย เฮียอย่าถามอะไรเลยนะ ผมไม่อยากผิดคำพูด เนี่ย! ผมเอาค่าจ้างเขามาแล้วด้วย จะเอาไปซื้อน้องต่ายมาเป็นเพื่อนให้ขนปุย ผมไปแล้วนะ อ่ะ! นี่ซองแดงของเฮีย”  เด็กชายเกือบจะเผลอตอบเหว่ยถิงไปในตอนแรก ก่อนจะรู้สึกตัวรีบอธิบายเร็ว ๆ ให้ชายหนุ่มฟัง จากนั้นก็ยัดเอาซองแดงใส่มือด้าน ๆ ของเหว่ยถิงเอาไว้แล้วหันหลังวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยู่รอให้เหว่ยถิงซักอะไรเพิ่มได้อีก               

ชายหนุ่มเปิดซองแดงออกมาดู คราวนี้เป็นภาพเงาของคนคนหนึ่งที่ทอดยาวออกไปตามถนน จุดที่เงาสิ้นสุดก็คือหน้าร้านเกาลัดของเหว่ยถิงนั่นเอง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีข้อความใด ๆ ทั้งสิ้นในภาพถ่าย มีเพียงตัวอักษร K ปรากฏอยู่มุมขวาล่างของภาพเพียงเท่านั้นราวกับคนส่งตั้งใจจะบอกเหว่ยถิงว่าสิ่งที่ชายหนุ่มคิดอยู่นั้นมันผิด

K งั้นเหรอ

ใครกันที่จ้างเสี่ยวหยวนมา...
เจ้าของซองแดงเป็นใครกันแน่

TBC


*****************************************************************************

ตามตอนต่อไปได้ที่ 

ขอบคุณค่ะที่ตามอ่านเป็นตอนต่อที่ยากจริง ๆ เหมือนโดนกลั่นเเกล้งอยู่ ฮาาาา หากมีอะไรผิดพลาดท้วงติงได้เลยนะคะ อาจจะดูเเปลก ๆ สักหน่อยเนื่องจากเป็นมือใหม่ด้านสายผลิตเเถมยังเป็นการเล่นโปรเจกต์วิ่งเปี้ยวครั้งเเรกแอบคิดมากนิดหน่อยว่าจะต่อได้ดีรึเปล่าเหมือนจะดูย้ำคิดย้ำทำ เวิ่นเว้ออยู่พอสมควรเลยทีเดียว