เฉินเหว่ยถิงกับวันตรุษจีน
Chinese New Year Day of William Chan Part 1
ในยามเช้าของย่านไชน่าทาวน์วันนี้แตกต่างออกไปจากทุกวัน
ตามถนนมีผู้คนมากมายออกมาเดินจับจ่ายหาซื้อของ กันมากมาย
ถึงแม้ว่าภาพความวุ่นวายนี้จะดูไม่ได้แปลกอะไรสำหรับตลาด แต่ทุกคนที่กำลังเดินเบียดเสียดเลือกซื้อของรู้ดีว่า มันไม่เหมือนกับวันอื่น
ๆ วันนี้มีคนจำนวนมากกว่าทุกวันเนื่องจากใกล้ถึงวันตรุษจีน
ทุกคนจึงออกมาหาซื้อของเอาไว้เตรียม ไหว้ปีใหม่กันตั้งแต่เนิ่น ๆ
เห็นได้ชัดจากร้านทองเชียนเชียนที่อาทิตย์ก่อนเคยเงียบเหงาก็คึกคักขึ้นมา
มีคนรอเข้าคิวรอซื้อทองเพื่อเอาไปเป็นอั่งเปาให้กับลูกหลานจนแถวยาวเลยออกมานอกร้านยังกับมีการแจกทองฟรี
และไม่ใช่แค่เพียงร้านทองเท่านั้นที่คึกคักจนผิดหูผิดตา ร้านเกาลัดเฉินเหว่ยถิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ก็ได้รับความนิยมเหมือนกัน
เฉินเหว่ยถิง
ชายหนุ่มเจ้าของร้านขายเกาลัดกำลังตั้งใจคั่วเกาลัดอยู่อย่างระมัดระวังท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวและไอร้อนจากกระทะเกาลัด
ภาพชายหนุ่มที่ใส่เพียงเสื้อกล้ามบาง ๆ กับกางเกงขาก๊วย
บนหัวมีผ้าขนหนูผืนสีขาวคาดปิดหน้าผากกว้าง ๆ กันเหงื่อไหลเข้าตา เสื้อบาง ๆ
ชื้นเหงื่อเห็นหน้าท้องรำไรกับกล้ามแขนแข็งแรงเรียกสายตาของสาว ๆ
ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ รุ่นใหญ่หรือรุ่นเล็กที่เห็นต่างก็ต้องหยุดมองแล้วเดินมาเข้าคิวซื้อเกาลัดติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากคนบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวิธีการคั่วเกาลัดอย่างดีที่คั่วจนได้กลิ่นหอม ๆ มันยั่วน้ำลาย
หรือเพราะพ่อค้าหนุ่มกันแน่ที่เรียกลูกค้า หรือไม่ก็ อาจจะทั้งสองอย่าง...
ความวุ่นวายในช่วงเช้าเริ่มลดลงในช่วงสาย ๆ
ชายหนุ่มเจ้าของร้านเกาลัด จึงได้มีเวลาพักหายใจหายคอบ้าง มือหนาจับตะหลิวคั่วเกาลัดในกระทะไปเรื่อย
ๆ กันไหม้ หากแต่สายตาของเหว่ยถิงกลับจับจ้องไปที่ร้านทองฝั่งตรงข้ามที่ลูกค้าไม่ได้ซาลง แม้แต่เพียงนิดเดียวอย่างครุ่นคิด
คิ้วหนาขมวดคิด ๆ ตามความคิดที่ยุ่งเหยิงอยู่ในสมอง
จะใช่เด็กนั่นรึเปล่านะ...
“ เฮียถิงผมเอาข้าวกลางวันมาส่ง
วันนี้ม๊าทำบะหมี่ใส่เครื่องมาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม สงสัยกลัวเฮียไม่อิ่ม” เสียงของอี้เฟิงลูกชายร้านข้าวเฟิงเหลียนที่เหว่ยถิงผูกปิ่นโตเอาไว้ดังขึ้น
เสียงเรียกนั้นดังพอที่จะเรียกสายตาของเหว่ยถิงให้กลับมาสนใจคนเรียกได้
“ใจลอยไปถึงสาวที่ไหนเนี่ยเฮีย เดี๋ยวเกาลัดก็ไหม้หมดหรอก” อี้เฟิงที่สังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเหว่ยถิงเอ่ยแซวชายหนุ่มอย่างขำ
ๆ
“ยุ่งน่าเหมียว นี่เอาบะหมี่มาส่งแล้วแอบกินจิ๊กลูกชิ้นกับหมูเด้งของเฮียไปอีกรึเปล่าเนี่ย
เอามาส่งแล้วก็รีบกลับไปช่วยม๊า ที่ร้านไป อย่ามามัวแต่เล่นอยู่” เฉินเหว่ยถิงทำเป็นไม่สนใจเสียงแซวนั้น
ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทำเป็นเย้าถามอี้เฟิงเรื่องบะหมี่ด้วย เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อน
เหว่ยถิงก็ไม่ได้รอให้ปากเล็ก ๆ นั่นเอ่ยแว้ดขึ้นมาโดยชิงเอ่ยปากให้ร่างอวบตรงหน้ากลับร้าน ของตัวเองไปเสียก่อนด้วยช่วงเวลาแบบนี้ร้านข้าวย่อมขายดีแน่นอน
หลังจากที่อี้เฟิงงอนกลับไปแล้วเหว่ยถิงก็จัดการกับบะหมี่ชามโตอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานของตนต่อ ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในช่วงเที่ยงลากยาวไปจนถึงเวลาเย็นจนเหว่ยถิงลืมเรื่องที่ตัวเองคิดค้างเอาไว้เมื่อครู่เสียสนิท
ในที่สุดช่วงเวลาที่เหนื่อยนรกแตกก็ผ่านไปจนได้ แต่เหว่ยถิงก็ยังไม่ได้พัก
ชายหนุ่มเตรียมคั่วเกาลัดกระทะใหม่เอาไว้ขาย ในช่วงเย็นอย่างไม่รีบร้อน ด้วยเผื่อไว้สำหรับคนมาเดินเที่ยวหาซื้อของกินในช่วงเย็น
ทั้งนี้ก็เพราะตลาดแห่งนี้คึกคักอยู่ตลอดทั้ง กลางวันและกลางคืน
ยิ่งตอนนี้ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนมีการประดับตกแต่งสถานที่ด้วยธงสีแดงตัดกับตัวอักษรจีนสีทองสวยงาม
ยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวให้ตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม
แต่เมื่อพอมีเวลาว่างเข้าหน่อย เหว่ยถิงก็อดนึกถึงเหตุการณ์ที่แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดอาทิตย์ก่อนไม่ได้
มันเริ่มตั้งแต่ช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคม
ทุก ๆ วันจะมีซองสีแดง 1 ซองมาเสียบไว้ที่หน้าบ้านเหว่ยถิงเสมอ ด้านในเป็นรูปถ่ายของชายหนุ่มในอิริยาบถต่าง ๆ
เป็นชายหนุ่มคนเดิม ในสถานที่เดิม ๆ ที่ร้านเกาลัดแห่งนี้
แต่ต่างกันที่เวลา บางภาพเป็นเวลาเช้า บางภาพเป็นเวลาเย็นหรือไม่ก็ค่ำ ทุก ๆ ครั้งในภาพถ่ายจะเขียนข้อความเอาไว้หลังภาพเสมอ
“วันนี้เหนื่อยหน่อยนะเหว่ยถิง”
“ขายดีขนาดนี้รับลูกน้องเพิ่มสักคนไหมเหว่ยถิง”
“ข้าวเที่ยงเป็นบะหมี่อีกแล้ว คุณน่าจะกินข้าวมากกว่านะ”
หรือไม่ก็... “ตั้งใจขายเกาลัดเข้าล่ะ” แต่บางครั้งก็เป็นรูปตัวตลกแป๊ะยิ้มหรือหัวเชิดสิงโต
ทุกครั้งที่ชายหนุ่มพยายามหาคำตอบโดยการแอบซุ่มมองอยู่ที่ประตูบ้านวันนั้นจะต้องไม่มีซองแดงมาเสียบไว้ที่หน้าบ้านราวกับนกรู้
ว่าชายหนุ่มกำลังแอบรออยู่ เหว่ยถิงเพียงแค่อยากรู้ว่าคนที่คอยถ่ายรูปเขาคือใคร
ทุกครั้งที่เห็นซองแดงมักจะเกิดความรู้สึกประหลาดอยู่เสมอ ๆ
ไม่เชิงว่าหงุดหงิดหรือไม่พอใจ
ชายหนุ่มตั้งใจเอาไว้ว่าเขาจะต้องรู้ตัวคน ๆ
นั้นให้ได้ ต้องเป็นคนใกล้ตัวไม่ใกล้ไม่ไกลตัวเขานี่ล่ะ!!