วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

Special Fic [Memory] : Chinese New Year Day of William Chan Part 1

เฉินเหว่ยถิงกับวันตรุษจีน
Chinese New Year Day of William Chan Part 1


ในยามเช้าของย่านไชน่าทาวน์วันนี้แตกต่างออกไปจากทุกวัน  ตามถนนมีผู้คนมากมายออกมาเดินจับจ่ายหาซื้อของ      กันมากมาย ถึงแม้ว่าภาพความวุ่นวายนี้จะดูไม่ได้แปลกอะไรสำหรับตลาด  แต่ทุกคนที่กำลังเดินเบียดเสียดเลือกซื้อของรู้ดีว่า      มันไม่เหมือนกับวันอื่น ๆ  วันนี้มีคนจำนวนมากกว่าทุกวันเนื่องจากใกล้ถึงวันตรุษจีน ทุกคนจึงออกมาหาซื้อของเอาไว้เตรียม       ไหว้ปีใหม่กันตั้งแต่เนิ่น ๆ

                เห็นได้ชัดจากร้านทองเชียนเชียนที่อาทิตย์ก่อนเคยเงียบเหงาก็คึกคักขึ้นมา มีคนรอเข้าคิวรอซื้อทองเพื่อเอาไปเป็นอั่งเปาให้กับลูกหลานจนแถวยาวเลยออกมานอกร้านยังกับมีการแจกทองฟรี และไม่ใช่แค่เพียงร้านทองเท่านั้นที่คึกคักจนผิดหูผิดตา      ร้านเกาลัดเฉินเหว่ยถิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ได้รับความนิยมเหมือนกัน

                เฉินเหว่ยถิง ชายหนุ่มเจ้าของร้านขายเกาลัดกำลังตั้งใจคั่วเกาลัดอยู่อย่างระมัดระวังท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวและไอร้อนจากกระทะเกาลัด

ภาพชายหนุ่มที่ใส่เพียงเสื้อกล้ามบาง ๆ กับกางเกงขาก๊วย บนหัวมีผ้าขนหนูผืนสีขาวคาดปิดหน้าผากกว้าง ๆ กันเหงื่อไหลเข้าตา เสื้อบาง ๆ ชื้นเหงื่อเห็นหน้าท้องรำไรกับกล้ามแขนแข็งแรงเรียกสายตาของสาว ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี            ไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ รุ่นใหญ่หรือรุ่นเล็กที่เห็นต่างก็ต้องหยุดมองแล้วเดินมาเข้าคิวซื้อเกาลัดติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากคนบ้าน      ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวิธีการคั่วเกาลัดอย่างดีที่คั่วจนได้กลิ่นหอม ๆ มันยั่วน้ำลาย หรือเพราะพ่อค้าหนุ่มกันแน่ที่เรียกลูกค้า หรือไม่ก็   อาจจะทั้งสองอย่าง...

ความวุ่นวายในช่วงเช้าเริ่มลดลงในช่วงสาย ๆ ชายหนุ่มเจ้าของร้านเกาลัด จึงได้มีเวลาพักหายใจหายคอบ้าง มือหนาจับตะหลิวคั่วเกาลัดในกระทะไปเรื่อย ๆ กันไหม้ หากแต่สายตาของเหว่ยถิงกลับจับจ้องไปที่ร้านทองฝั่งตรงข้ามที่ลูกค้าไม่ได้ซาลง แม้แต่เพียงนิดเดียวอย่างครุ่นคิด คิ้วหนาขมวดคิด ๆ ตามความคิดที่ยุ่งเหยิงอยู่ในสมอง

จะใช่เด็กนั่นรึเปล่านะ...

 เฮียถิงผมเอาข้าวกลางวันมาส่ง วันนี้ม๊าทำบะหมี่ใส่เครื่องมาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม สงสัยกลัวเฮียไม่อิ่ม” เสียงของอี้เฟิงลูกชายร้านข้าวเฟิงเหลียนที่เหว่ยถิงผูกปิ่นโตเอาไว้ดังขึ้น เสียงเรียกนั้นดังพอที่จะเรียกสายตาของเหว่ยถิงให้กลับมาสนใจคนเรียกได้

“ใจลอยไปถึงสาวที่ไหนเนี่ยเฮีย เดี๋ยวเกาลัดก็ไหม้หมดหรอก” อี้เฟิงที่สังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเหว่ยถิงเอ่ยแซวชายหนุ่มอย่างขำ ๆ  

“ยุ่งน่าเหมียว นี่เอาบะหมี่มาส่งแล้วแอบกินจิ๊กลูกชิ้นกับหมูเด้งของเฮียไปอีกรึเปล่าเนี่ย เอามาส่งแล้วก็รีบกลับไปช่วยม๊า   ที่ร้านไป อย่ามามัวแต่เล่นอยู่” เฉินเหว่ยถิงทำเป็นไม่สนใจเสียงแซวนั้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทำเป็นเย้าถามอี้เฟิงเรื่องบะหมี่ด้วย    เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อน เหว่ยถิงก็ไม่ได้รอให้ปากเล็ก ๆ นั่นเอ่ยแว้ดขึ้นมาโดยชิงเอ่ยปากให้ร่างอวบตรงหน้ากลับร้าน    ของตัวเองไปเสียก่อนด้วยช่วงเวลาแบบนี้ร้านข้าวย่อมขายดีแน่นอน

หลังจากที่อี้เฟิงงอนกลับไปแล้วเหว่ยถิงก็จัดการกับบะหมี่ชามโตอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานของตนต่อ ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในช่วงเที่ยงลากยาวไปจนถึงเวลาเย็นจนเหว่ยถิงลืมเรื่องที่ตัวเองคิดค้างเอาไว้เมื่อครู่เสียสนิท

ในที่สุดช่วงเวลาที่เหนื่อยนรกแตกก็ผ่านไปจนได้ แต่เหว่ยถิงก็ยังไม่ได้พัก ชายหนุ่มเตรียมคั่วเกาลัดกระทะใหม่เอาไว้ขาย ในช่วงเย็นอย่างไม่รีบร้อน ด้วยเผื่อไว้สำหรับคนมาเดินเที่ยวหาซื้อของกินในช่วงเย็น  ทั้งนี้ก็เพราะตลาดแห่งนี้คึกคักอยู่ตลอดทั้ง กลางวันและกลางคืน  ยิ่งตอนนี้ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนมีการประดับตกแต่งสถานที่ด้วยธงสีแดงตัดกับตัวอักษรจีนสีทองสวยงาม ยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวให้ตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม

แต่เมื่อพอมีเวลาว่างเข้าหน่อย เหว่ยถิงก็อดนึกถึงเหตุการณ์ที่แปลก  ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดอาทิตย์ก่อนไม่ได้

มันเริ่มตั้งแต่ช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคม ทุก ๆ วันจะมีซองสีแดง 1 ซองมาเสียบไว้ที่หน้าบ้านเหว่ยถิงเสมอ    ด้านในเป็นรูปถ่ายของชายหนุ่มในอิริยาบถต่าง ๆ  เป็นชายหนุ่มคนเดิม ในสถานที่เดิม ๆ ที่ร้านเกาลัดแห่งนี้ แต่ต่างกันที่เวลา     บางภาพเป็นเวลาเช้า บางภาพเป็นเวลาเย็นหรือไม่ก็ค่ำ ทุก ๆ ครั้งในภาพถ่ายจะเขียนข้อความเอาไว้หลังภาพเสมอ

“วันนี้เหนื่อยหน่อยนะเหว่ยถิง”
“ขายดีขนาดนี้รับลูกน้องเพิ่มสักคนไหมเหว่ยถิง”
“ข้าวเที่ยงเป็นบะหมี่อีกแล้ว คุณน่าจะกินข้าวมากกว่านะ”
หรือไม่ก็... “ตั้งใจขายเกาลัดเข้าล่ะ” แต่บางครั้งก็เป็นรูปตัวตลกแป๊ะยิ้มหรือหัวเชิดสิงโต

ทุกครั้งที่ชายหนุ่มพยายามหาคำตอบโดยการแอบซุ่มมองอยู่ที่ประตูบ้านวันนั้นจะต้องไม่มีซองแดงมาเสียบไว้ที่หน้าบ้านราวกับนกรู้ ว่าชายหนุ่มกำลังแอบรออยู่ เหว่ยถิงเพียงแค่อยากรู้ว่าคนที่คอยถ่ายรูปเขาคือใคร ทุกครั้งที่เห็นซองแดงมักจะเกิดความรู้สึกประหลาดอยู่เสมอ ๆ ไม่เชิงว่าหงุดหงิดหรือไม่พอใจ

ชายหนุ่มตั้งใจเอาไว้ว่าเขาจะต้องรู้ตัวคน ๆ นั้นให้ได้ ต้องเป็นคนใกล้ตัวไม่ใกล้ไม่ไกลตัวเขานี่ล่ะ!!





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น