[Special Fic] INSIDE ME backstage #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
Part 12
การกลับมาอีกครั้งของ #วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ ครั้งที่ 4
พบกันอีกครั้งกับฟิค #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
ซึ่งคราวนี้มาในธีมคอนเสิร์ต INSIDE ME ของเฮียถิงค่ะ
โดยเราจะเขียนต่อกัน 6 คนคนละ 2 หน้าถ้วน ไม่มีการบอกพล็อต ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้
อยากรู้ไหมคะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาลุ้นด้วยกันสิคะ :D
ตอนที่แล้วค่ะ
part 1 By @ConiCat
part 2 By @camrt138
part 3 By @kakujo59
part 4 By @Essorhino
part 5 By @en_gen95
part 6 By @zpctxv
part 7 By @ConiCat
part 8 By @camrt138
part 9 By @kakujo59
part 10 By @Essorhino
part 11 By en_gen95
ใช่ นัดสำคัญ...ลืมไปได้ยังไงกันนะ
ชายหนุ่มรีบวิ่งออกจากฮอลล์ โดยไม่ได้ใส่ใจเสียงใครสักคนที่ตะโกนไล่หลังมาด้วยความตกใจ
เหว่ยถิงลืมอาการเจ็บของตัวเองชั่วคราว เขาเร่งก้าวขายาวๆ
เพื่อไปให้ถึงที่หมายโดยเร็ว
ขอให้ทัน รอก่อนนะ รอก่อน
แต่เมื่อว่าถึงที่หมายชายหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวัง รอบกายมีแต่ความว่างเปล่า
และเงียบเชียบ เฉินเหว่ยถิงได้แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่กลางสถานที่ว่างเปล่าแห่งนี้
แต่ทว่ากลับมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
แต่กลับกลายเป็นคริสและอี้ชิงที่กำลังเดินตรงมาที่เขาอย่างช้าๆ
“ทำไมพวกนายไม่เตือน” เหว่ยถิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่เย็นเยียบ
แต่ทันทีที่สิ้นสุดคำถามคริสก็ตอบกลับมาแทบจะทันที
“ผมคิดว่าเฮียรู้ตั้งแต่ที่พวกผมบุกไปหาที่ห้องแล้ว
อีกอย่างหนานไพ่ก็มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เฮียอยากให้เขาเดือดร้อนเหรอครับ”
“เขาไปไหนแล้ว ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่เห็นพวกนายรวมตัวกันเล่นเกมแล้วสินะ
ไม่อย่างนั้นคงไม่พลาดโอกาสที่จะได้เจอ”
“เอาน่าเจ่เจ้จะเครียดทำไม กลับไปที่ฮอลล์เพื่อเตรียมงานวันพรุ่งนี้เถอะน่า
ยังไงเฮียก็ต้องได้เจอแน่นอน ผมรับรองด้วยไขมันของผมเลย
ยอมเป็นเจ่เจ้ของวงการทั้งที” คริสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อให้ร่างสูงคลายกังวล
แต่ถึงอย่างนั้นเจ่เจ้ถิงก็ยังเอาแต่ยืนนิ่งมองตาของเด็กร่างยักษ์สลับกับแกะหน้ามึนไปมาอย่างไม่แน่ใจ
จนเมื่อได้เห็นแววตาที่ทอประกายความหนักแน่นออกมา เจ่เจ้จึงได้แต่จำยอมทำตามคำบอกนั้น
เจ้าแกะน้อยจึงพาหน้าง่วงๆ และร่างบางๆ
ของตัวเองเข้ามาดึงแขนของคนเป็นพี่กลับไปที่ฮอลล์
เมื่อทั้งสามคนกลับมาที่ฮอลล์ก็ยังเจอกับหนานไพ่ที่นั่งคุยอยู่กับเชียนซีอย่างออกรส
แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน ดวงตาเล็กที่แทบจะถูกแก้มซาลาเปาของเจ้าตัวกลบไว้ก็หันกลับมามองอย่างรวมเร็ว
ทำราวกับเมื่อสักครู่นี้เจ้าตัวไม่ได้กำลังหัวเราะหรือคุยเล่นอยู่กับใคร
“กลับมาแล้วเหรอฝอเหยีย ถึงกับต้องรีบวิ่งออกไป รู้แล้วสินะ แล้วยังไงสรุปจะไม่ยอมมาอยู่ในสังกัดของฉันใช่ไหม”
เสียงหนานไพ่เอ่ยขึ้น พร้อมๆ กับที่ทุกคนเงียบเสียงลง บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนเหมือนฉากในหนังที่เหตุการณ์รอบๆ
ตัวกำลังหยุดหมุน
“ใช้ค่รับ ส่วนที่กลับมาน่ะเจ่เจ้ตางหาก
ฝอเหยียคงไม่กลับมาอีก ขอตัวไปซ้อมต่อนะครับ”
ใช่... เจ่เจ้ตางหากที่กลับมา ไม่ใช่ฝอเหยีย
ทุกคนในฮอลล์ต่างอมยิ้มกับท่าทางของเจ่เจ้ที่เดินสะบัดตูดกลับไปที่เวทีได้อย่างน่ารักน่าชัง
(?) ต่างกับหนานไพ่ซานซูที่ดูเหมือนว่าหน้าที่อูมๆ อยู่นั้นกำลังแกงกล่ำราวกับว่าอีกสักวินาทีมันจะระเบิดออกมา
ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากฮอลล์ไปด้วยความโมโหที่ชักชวนเหว่ยถิงมาเข้าสังกัดของตนไม่สำเร็จ
แถมยังโดนหักหน้าต่อคนอื่นๆ อีกหลายคนด้วย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงครึกครื้นของดนตรีดังปะปนกับเสียงกรี๊ดของเหล่าควีนดังสนั่นทั่วฮอลล์
ภาพบนเวทีตอนนี้แสดงให้เห็นถึงเจ่เจ้แห่งวงการกำลังเปลือยท่อนบนใส่มงกุฎหน้าตาประหลาดที่ควีนแอบลงมติกันอย่างเงียบๆ
ว่าจะเรียกมันว่าชุดหงอนไก่ และทำท่าเต้นที่ดูแล้วสะดีดสะดิ้งแต่ก็แฝงไว้ด้วยความแข็งแรงจนน่าหลงใหล
คอนเสิร์ตครั้งนี้มีแต่ชุดนำแฟชั่น ที่ดูแล้วสมกับเป็นเจ่เจ้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูทแดงที่ไม่ได้ใส่เสื้อตัวในเอาไว้จนโชว์แผงอกเต่งตึงน่ากัด
มองเห็นหยดเหงื่อชวนให้สยิวใจ หรือจะเป็นชุดดำที่เจ้าของคอนเลิกเสื้อขึ้นเพื่อโชว์ซิกแพ็คให้เหล่าควีนได้กรี๊ดจนร่ำๆ
จะเป็นลมตายอยู่ที่ฮอลล์
หวังว่าคนคนนั้นจะดูอยู่นะ
ในที่สุดคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็จบลง
ท่างกลางความเสียดายของเหล่าควีนที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
สนุกจนลืเวลาและไม่อยากให้คอนครั้งนี้ต้องจบลง แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา
และ...รอวันที่กลับมาเริ่มต้นใหม่ขึ้นอีกครั้ง
“เฮ้ เจ่เจ้วันนี้สะดิ้งมากเป็นพิเศษเลยนา เพราะอะไรกันละนี่”
ทันทีที่ลงจากเวที เสียงของป๋อหรันที่วันนี้เจ้าตัวว่างเลยมานั่งชมคอนเสิร์ตก็เอ่ยแซวขึ้นทันที
พร้อมกันทำตาเล็กตาน้อย ลอยหน้าลอยตายั่วชายหนุ่มหน้ามันเหม่งเปล่งแสงอย่างหยอกเย้า
“หึหึ ก็แน่สิเพื่อควีนที่น่ารักของฉัน ก็ต้องเต็มที่กันหน่อย”
เจ่เจ้ตอบด้วยสีหน้าที่มีความสุข
“เฮ้อ อย่างนี้ละน้า จะได้เจอคนสำคัญทั้งที อะไรๆ ก็ดีไปหมดดดด ใช่สิ
พวกฉันมันหมดประโยชน์แล้วนี่
คราวนี้จะมีคนว่างมานั่งเล่นอินเกรสด้วยไหมน้า” ป๋อหรันยังไม่หยุดแซวร่างสูง
แต่เหว่ยถิงก็ใช่ว่าจะสนใจคำแซวนั้น ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงล้วนๆ เจ้าตัวจะไปเถียงอะไรได้ล่ะ
แถมยังต้องสมนาคุณให้เจ้าพวกนี้อีกตางหากน่ะสิ เป็นอะไรดี...เงินสดไปให้เติมเกมดีไหมนะ
ที่จริงแล้วอี้เฟิงบอกว่าเจ้าพวกนี้รวมทั้งตนเองคอยติดต่อคนสำคัญของเขามาตลอด ดดยคุยกันผ่านเกมอินเกรสที่มีช่องแชทอยู่ในเกม กำหนดรัศมีระยะ 10 กิโลเมตรโดยมีห้องของเขาเป็นศูนย์กลาง
จนโดนล่อลวงไปติดเกมโปเกมอน โก กับเกมดาบแบบงอมแงม ทุกคนคอยช่วยวางแผนกันท่าไม่ให้หนานไพ่เข้ามาวุ่นวายกับตัวเขาไปพร้อมๆ กับการวางแผนเล่นเกมทั้งสามเกมแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดเเละก้าวหน้าอย่างจริงจัง
จนวันนี้เขากับคนสำคัญจะได้เจอกันแล้ว หลังจากที่เมื่อวานนกเพราะความซื่อบื้อของเขาเองไม่ยอมไปตามนัดที่เคยให้สัญญาเอาไว้เมื่อปีก่อน
“เฮีย” เสียงเรียกที่คุ้นเคย ทำเอาเหว่ยถิงหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และสวมกอดเอาไว้ก่อนที่จะเอ่ยประโยคๆ
หนึ่งออกมา
“คิดถึงนะ ผบ. คราวนี้กลับมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เฮียเลยนะ อย่าไปไหนอีก”
.....................................................................................................................................
จอบอจ้ะ 5555555555555555555555555
อย่าได้เเต่อย่าเเรงนาจา ผบ.อ่อนเเอ