วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Special Fic] INSIDE ME backstage #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง Part 12

[Special Fic] INSIDE ME backstage #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
Part 12

การกลับมาอีกครั้งของ #วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ ครั้งที่ 4

พบกันอีกครั้งกับฟิค #เบื้องหลังคอนเสิร์ตของเฉินเหว่ยถิง
ซึ่งคราวนี้มาในธีมคอนเสิร์ต INSIDE ME ของเฮียถิงค่ะ
โดยเราจะเขียนต่อกัน 6 คนคนละ 2 หน้าถ้วน ไม่มีการบอกพล็อต ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้
อยากรู้ไหมคะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาลุ้นด้วยกันสิคะ :D

ตอนที่แล้วค่ะ

part 1  By @ConiCat

part 2 By @camrt138

part 3 By @kakujo59

part 4 By @Essorhino

part 5 By @en_gen95

part 6 By @zpctxv

part 7 By @ConiCat

part 8 By @camrt138

part 9 By @kakujo59

part 10 By @Essorhino

part 11 By en_gen95


ใช่ นัดสำคัญ...ลืมไปได้ยังไงกันนะ

ชายหนุ่มรีบวิ่งออกจากฮอลล์  โดยไม่ได้ใส่ใจเสียงใครสักคนที่ตะโกนไล่หลังมาด้วยความตกใจ เหว่ยถิงลืมอาการเจ็บของตัวเองชั่วคราว เขาเร่งก้าวขายาวๆ เพื่อไปให้ถึงที่หมายโดยเร็ว

ขอให้ทัน รอก่อนนะ รอก่อน 

แต่เมื่อว่าถึงที่หมายชายหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวัง รอบกายมีแต่ความว่างเปล่า  และเงียบเชียบ เฉินเหว่ยถิงได้แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่กลางสถานที่ว่างเปล่าแห่งนี้

แต่ทว่ากลับมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับกลายเป็นคริสและอี้ชิงที่กำลังเดินตรงมาที่เขาอย่างช้าๆ

                “ทำไมพวกนายไม่เตือน” เหว่ยถิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่เย็นเยียบ แต่ทันทีที่สิ้นสุดคำถามคริสก็ตอบกลับมาแทบจะทันที

                “ผมคิดว่าเฮียรู้ตั้งแต่ที่พวกผมบุกไปหาที่ห้องแล้ว อีกอย่างหนานไพ่ก็มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เฮียอยากให้เขาเดือดร้อนเหรอครับ”

                “เขาไปไหนแล้ว ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่เห็นพวกนายรวมตัวกันเล่นเกมแล้วสินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่พลาดโอกาสที่จะได้เจอ”

                “เอาน่าเจ่เจ้จะเครียดทำไม กลับไปที่ฮอลล์เพื่อเตรียมงานวันพรุ่งนี้เถอะน่า ยังไงเฮียก็ต้องได้เจอแน่นอน ผมรับรองด้วยไขมันของผมเลย ยอมเป็นเจ่เจ้ของวงการทั้งที” คริสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อให้ร่างสูงคลายกังวล แต่ถึงอย่างนั้นเจ่เจ้ถิงก็ยังเอาแต่ยืนนิ่งมองตาของเด็กร่างยักษ์สลับกับแกะหน้ามึนไปมาอย่างไม่แน่ใจ จนเมื่อได้เห็นแววตาที่ทอประกายความหนักแน่นออกมา เจ่เจ้จึงได้แต่จำยอมทำตามคำบอกนั้น  เจ้าแกะน้อยจึงพาหน้าง่วงๆ และร่างบางๆ ของตัวเองเข้ามาดึงแขนของคนเป็นพี่กลับไปที่ฮอลล์

                เมื่อทั้งสามคนกลับมาที่ฮอลล์ก็ยังเจอกับหนานไพ่ที่นั่งคุยอยู่กับเชียนซีอย่างออกรส แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน ดวงตาเล็กที่แทบจะถูกแก้มซาลาเปาของเจ้าตัวกลบไว้ก็หันกลับมามองอย่างรวมเร็ว ทำราวกับเมื่อสักครู่นี้เจ้าตัวไม่ได้กำลังหัวเราะหรือคุยเล่นอยู่กับใคร

                “กลับมาแล้วเหรอฝอเหยีย  ถึงกับต้องรีบวิ่งออกไป รู้แล้วสินะ แล้วยังไงสรุปจะไม่ยอมมาอยู่ในสังกัดของฉันใช่ไหม” เสียงหนานไพ่เอ่ยขึ้น พร้อมๆ กับที่ทุกคนเงียบเสียงลง บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนเหมือนฉากในหนังที่เหตุการณ์รอบๆ ตัวกำลังหยุดหมุน

                “ใช้ค่รับ ส่วนที่กลับมาน่ะเจ่เจ้ตางหาก ฝอเหยียคงไม่กลับมาอีก ขอตัวไปซ้อมต่อนะครับ”

                ใช่... เจ่เจ้ตางหากที่กลับมา ไม่ใช่ฝอเหยีย

            ทุกคนในฮอลล์ต่างอมยิ้มกับท่าทางของเจ่เจ้ที่เดินสะบัดตูดกลับไปที่เวทีได้อย่างน่ารักน่าชัง (?) ต่างกับหนานไพ่ซานซูที่ดูเหมือนว่าหน้าที่อูมๆ อยู่นั้นกำลังแกงกล่ำราวกับว่าอีกสักวินาทีมันจะระเบิดออกมา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากฮอลล์ไปด้วยความโมโหที่ชักชวนเหว่ยถิงมาเข้าสังกัดของตนไม่สำเร็จ แถมยังโดนหักหน้าต่อคนอื่นๆ อีกหลายคนด้วย



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

                เสียงครึกครื้นของดนตรีดังปะปนกับเสียงกรี๊ดของเหล่าควีนดังสนั่นทั่วฮอลล์ ภาพบนเวทีตอนนี้แสดงให้เห็นถึงเจ่เจ้แห่งวงการกำลังเปลือยท่อนบนใส่มงกุฎหน้าตาประหลาดที่ควีนแอบลงมติกันอย่างเงียบๆ ว่าจะเรียกมันว่าชุดหงอนไก่ และทำท่าเต้นที่ดูแล้วสะดีดสะดิ้งแต่ก็แฝงไว้ด้วยความแข็งแรงจนน่าหลงใหล

คอนเสิร์ตครั้งนี้มีแต่ชุดนำแฟชั่น ที่ดูแล้วสมกับเป็นเจ่เจ้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูทแดงที่ไม่ได้ใส่เสื้อตัวในเอาไว้จนโชว์แผงอกเต่งตึงน่ากัด มองเห็นหยดเหงื่อชวนให้สยิวใจ หรือจะเป็นชุดดำที่เจ้าของคอนเลิกเสื้อขึ้นเพื่อโชว์ซิกแพ็คให้เหล่าควีนได้กรี๊ดจนร่ำๆ จะเป็นลมตายอยู่ที่ฮอลล์

หวังว่าคนคนนั้นจะดูอยู่นะ

ในที่สุดคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็จบลง ท่างกลางความเสียดายของเหล่าควีนที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุกจนลืเวลาและไม่อยากให้คอนครั้งนี้ต้องจบลง แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา และ...รอวันที่กลับมาเริ่มต้นใหม่ขึ้นอีกครั้ง

“เฮ้ เจ่เจ้วันนี้สะดิ้งมากเป็นพิเศษเลยนา เพราะอะไรกันละนี่” ทันทีที่ลงจากเวที เสียงของป๋อหรันที่วันนี้เจ้าตัวว่างเลยมานั่งชมคอนเสิร์ตก็เอ่ยแซวขึ้นทันที พร้อมกันทำตาเล็กตาน้อย ลอยหน้าลอยตายั่วชายหนุ่มหน้ามันเหม่งเปล่งแสงอย่างหยอกเย้า

“หึหึ ก็แน่สิเพื่อควีนที่น่ารักของฉัน ก็ต้องเต็มที่กันหน่อย” เจ่เจ้ตอบด้วยสีหน้าที่มีความสุข

“เฮ้อ อย่างนี้ละน้า จะได้เจอคนสำคัญทั้งที อะไรๆ ก็ดีไปหมดดดด ใช่สิ พวกฉันมันหมดประโยชน์แล้วนี่  คราวนี้จะมีคนว่างมานั่งเล่นอินเกรสด้วยไหมน้า” ป๋อหรันยังไม่หยุดแซวร่างสูง แต่เหว่ยถิงก็ใช่ว่าจะสนใจคำแซวนั้น ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงล้วนๆ เจ้าตัวจะไปเถียงอะไรได้ล่ะ แถมยังต้องสมนาคุณให้เจ้าพวกนี้อีกตางหากน่ะสิ เป็นอะไรดี...เงินสดไปให้เติมเกมดีไหมนะ

ที่จริงแล้วอี้เฟิงบอกว่าเจ้าพวกนี้รวมทั้งตนเองคอยติดต่อคนสำคัญของเขามาตลอด ดดยคุยกันผ่านเกมอินเกรสที่มีช่องแชทอยู่ในเกม  กำหนดรัศมีระยะ 10 กิโลเมตรโดยมีห้องของเขาเป็นศูนย์กลาง จนโดนล่อลวงไปติดเกมโปเกมอน โก กับเกมดาบแบบงอมแงม ทุกคนคอยช่วยวางแผนกันท่าไม่ให้หนานไพ่เข้ามาวุ่นวายกับตัวเขาไปพร้อมๆ กับการวางแผนเล่นเกมทั้งสามเกมแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดเเละก้าวหน้าอย่างจริงจัง

จนวันนี้เขากับคนสำคัญจะได้เจอกันแล้ว หลังจากที่เมื่อวานนกเพราะความซื่อบื้อของเขาเองไม่ยอมไปตามนัดที่เคยให้สัญญาเอาไว้เมื่อปีก่อน

“เฮีย” เสียงเรียกที่คุ้นเคย ทำเอาเหว่ยถิงหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และสวมกอดเอาไว้ก่อนที่จะเอ่ยประโยคๆ หนึ่งออกมา

“คิดถึงนะ ผบ. คราวนี้กลับมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เฮียเลยนะ อย่าไปไหนอีก”

.....................................................................................................................................

จอบอจ้ะ 5555555555555555555555555 
อย่าได้เเต่อย่าเเรงนาจา ผบ.อ่อนเเอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น